ถุงเงินถุงทอง

ถุงเงินถุงทอง ไม้มงคลมหานิยม ปลูกแล้วดีมีแล้วเฮง

หากใครที่กำลังมองหาไม้ด่างมงคลมาปลูกเป็นงานอดิเรกที่บ้านต้น ถุงเงินถุงทอง ถือว่าเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ดีและมีความน่าสนใจอย่างมากในเวลานี้ นอกจากจะปลูกง่ายเลี้ยงไม่ยากและราคาไม่แพงแล้ว พันธุ์ไม้นี้ยังถือว่าเป็นไม้มงคลที่ช่วยเสริมดวงชะตา เสริมวาสนาให้กับผู้ปลูกหรือเจ้าของบ้านอีกด้วย ลองมาดูรายละเอียดของไม้มงคลชนิดนี้กันเลยดีกว่า

มาทำความรู้จักต้น ถุงเงินถุงทอง กันก่อน

สำหรับถุงเงินถุงทองเป็นไม้ประเภทไม้ล้มลุก สามารถปลูกได้ในดินร่วน และจัดว่าเป็นไม้ที่โตช้า ไม้ชนิดนี้มีความเชื่อมาตั้งแต่สมัยโบราณว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่มีคุณวิเศษ คนโบราณจัดว่าเป็นไม้ว่านชนิดหนึ่ง ที่มีคุณวิเศษในเรื่องเมตตามหานิยม ใครปลูกไว้ หรืออยู่ภายใต้ชายคาบ้านเรือนไหนก็จะนำแต่สิ่งดี ๆ เข้ามา หากทำมาค้าขายก็จะขายของดี มีลูกค้าเข้ามาไม่ขาดสาย บ้านไหนมีทรัพย์สินมากมายก็จะทำให้การเก็บเงินเก็บทองดีขึ้น เก็บเงินได้อยู่มากขึ้น นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อของพันธุ์ไม้ชนิดนี้นั่นเอง 

ไม้พันธุ์นี้ตัวลำต้นจะมุดลงไปในดินเมื่อนำขึ้นมาดูจะเห็นว่าลักษณะลำตัวจะคล้าย ๆ หัวเผือกหัวมัน ส่วนของใบนั้นจะให้ทรงออกเป็นรูปหัวใจ แต่จะเป็นหัวใจเบี้ยว ๆ ไม่เรียวโค้งเป็นแบบหัวใจชัดเจน ตัวใบนั้นจะกางเป็นแผ่นใหญ่ราว 25 – 30 เซนติเมตร สามารถขยายได้ถึง 40 เซนติเมตรเมื่อโตเต็มวัย ตัวแผ่นใบช่วงกำลังโตจะออกสีเหลืองทอง มีสีเขียวสลับบ้าง เป็นที่มาของคำว่า “ถุงทอง” เมื่อโตเต็มที่ใบก็จะเริ่มมีสีเขียวมากขึ้น ลักษณะใบเมื่อดูรวม ๆ แล้วจะเหมือนมีรอยด่างแซมประปราย และเมื่อต้นแก่ลงส่วนที่เป็นสีเหลืองก็จะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีขาวจึงเป็นที่มาของคำว่า “ถุงเงิน” ตามชื่อนั่นเอง

ไม้ชนิดนี้จะมีดอกด้วย ตัวดอกจะออกเป็นลักษณะช่อดอก ปลีดอกเรียวยาว เมื่อดอกบานก็จะส่งกลิ่นหอม และเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่ ก็จะมีความสูงตั้งแต่ 90 เซนติเมตร ไปจนกระทั่งถึง 1 เมตรเลยทีเดียว สำหรับการศึกษาไม้ชนิดนี้ในปัจจุบันก็พบว่าเป็นไม้ที่มีประโยชน์ในแง่ของการเพิ่มออกซิเจนและช่วยมลพิษในอากาศได้เป็นอย่างดี

สิ่งที่ควรรู้เมื่อจะปลูกว่านถุงเงินถุงทอง

พอรู้จักกับพันธุ์ไม้ชนิดนี้กันไปบ้างแล้ว เชื่อว่าหลายคนพอรู้ว่าเป็นไม้มงคลแบบนี้ก็คงรีบอยากจะซื้อมาปลูกที่บ้านกันอย่างแน่นอน แต่อย่าเพิ่งรีบ ก่อนที่จะซื้อว่านถุงเงินถุงทองมาปลูกก็มีบางสิ่งที่ควรรู้ไว้ก่อน เพื่อที่เวลาปลูกแล้วต้นไม้จะได้อยู่นาน ๆ ไม่ตายไปเร็วก่อนเวลาอันควร และสิ่งที่ต้องรู้ก็มีดังนี้

1. ไม่โตในฤดูหนาว – พันธุ์ไม้นี้จะหยุดการเติบโตในช่วงฤดูหนาว แต่ปกติแล้วอากาศในเมืองไทยจะร้อนเสียมากกว่า เรื่องนี้จึงไม่ใช่ปัญหาที่น่ากังวล

2. ชอบแดด – ไม้ชนิดนี้ชอบแดด ผู้ปลูกจึงควรปลูกในที่แจ้ง และควรให้ได้รับแดดอย่างสม่ำเสมอ ไม่จำเป็นต้องแดดแรง แดดพอรำไรก็ได้ แต่ควรได้รับทุก ๆ วันไม้ชนิดก็จะโตเร็ว และแตกใบให้เห็นอย่างเด่นชัด

3. ชอบน้ำ – นอกจากชอบแดดแล้วไม้พันธุ์นี้ยังชอบน้ำด้วย สามารถให้น้ำมากกว่าไม้กระถางทั่วไปได้ สำหรับความถี่ในการให้น้ำที่เหมาะสมก็คือ 2 วันให้น้ำ 1 ครั้ง และการให้น้ำควรใช้วิธีการเทไปที่กระถางให้น้ำล้นออกมาจากกระถาง ไม่ควรให้ที่ใบโดยตรง แบบนี้จะทำให้ไม้โตเร็วมากขึ้น

4. สามารถใช้ปุ๋ยเคมีได้ – ไม้พันธุ์นี้สามารถให้ปุ๋ยเคมีได้เลย แต่ควรให้ในปริมาณที่พอเหมาะ

5. ควรปลูกในดินออร์แกนิกสด – ไม้พันธุ์นี้จะเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนที่มีอินทรียวัตถุผสมอยู่ในดิน จึงควรใช้ดินร่วนธรรมชาติในการปลูก แต่นอกจากดินแบบธรรมชาติแล้วหากใครจะใช้ดินผสมกับหิน Perlite ในการปลูกก็ได้เช่นกัน ไม้ชนิดนี้ก็เจริญเติบโตในดินลักษณะนี้ได้ด้วย

การปลูกต้นไม้ไม่ว่าจะเป็นงานหลักหรืองานอดิเรกก็ตาม ก็ย่อมเป็นเรื่องที่ดีเสมอ เพราะทำให้สังคมชุมชนและโลกใบนี้มีพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้น ช่วยให้อากาศเย็นมีความร่มรื่นและมีออกซิเจนเพิ่มขึ้น ยิ่งถ้าปลูกไม้มงคลอย่างต้นถุงเงินถุงทองด้วยแล้วยิ่งเป็นไอเดียที่ดี เพราะไม่เพียงแต่จะส่งเสริมความเป็นมงคลให้กับชีวิตยังทำให้บรรยากาศในบ้านดูสดชื่นสดใสมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย ใครสนใจก็ลองซื้อมาปลูกกันได้เลย

ถุงเงินถุงทอง

Similar Posts