ว่านลูกไก่ทอง

ว่านลูกไก่ทอง ไม้มงคลมอบโชคลาภแถมมากคุณค่าในทางยา

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจเรื่องไม้มงคล พันธุ์ไม้ที่คุณควรมีไว้เลยก็คือ ว่านลูกไก่ทอง หรือที่คนทั่วไปรู้จักกันในนาม ต้นว่านไก่น้อย ไม้มงคลชนิดนี้กำลังเริ่มเป็นกระแสขึ้นมาอีกครั้ง เพราะจากองค์ความรู้ใหม่ ๆ ที่มีการศึกษาเรื่องพืชสมุนไพรและพันธุ์ไม้ต่าง ๆ อย่างลึกซึ้งมากขึ้นทำให้ในปัจจุบันมีการค้นพบคุณค่าใหม่ ๆ จากไม้พันธุ์นี้ ที่ไม่ใช่แค่เพียงเป็นไม้มงคลให้ประโยชน์ในด้านความเชื่อเท่านั้น แต่ยังเป็นยาสมุนไพรชั้นดี ที่สามารถนำมาใช้ปรุงยารักษาโรคได้มากมายด้วย

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับว่านลูกไก่ทอง

ใครที่มีประสบการณ์เรื่องต้นไม้หรือพันธุ์ไม้มงคลก็อาจจะรู้จักกับว่านไก่น้อยนี้กันเป็นอย่างดี เพราะเป็นพันธุ์ไม้ที่ไม่ใช่เพิ่งมีในปัจจุบัน ส่วนใครที่ไม่ใช่คนที่อยู่ในวงการก็อาจจะไม่เคยได้ยินชื่อของว่านลูกไก่ทองหรือต้นว่านไก่น้อยนี้เลย ก็จะขอแนะนำให้รู้จักกับพันธุ์ไม้ชนิด ๆ กันพอสังเขป

ภาพรวมสกุลของพันธุ์ไม้

ว่านไก่น้อย จัดว่าเป็นไม้ในกลุ่มสกุลของเฟิร์น มีชื่อพันธุ์ในทางวิทยาศาสตร์ว่า Cibotium barometz สามารถปลูกได้ในหลายภาคของประเทศไทย ทำให้ไม้ชนิดนี้ถูกเรียกเป็นภาษาท้องถิ่นในหลายชื่อ อย่าง ภาคใต้ก็จะเรียกกูดเสือ ภาคเหนือก็จะเรียก เฟิร์นลูกไก่ทอง ทางอีสานก็จะเรียกหัสแดง 

ลักษณะของต้น

ไม้มงคลพันธุ์นี้ ลักษณะลำต้นเมื่อโตเต็มวัยจะสามารถสูงได้ถึง 2.5 เมตรโดยประมาณ ในส่วนของก้านใบจะมีความแข็งแรงและออกเป็นสีเทา ตัวใบจะใหญ่ลักษณะรีแหลม มองไปจะรู้สึกว่าคล้ายกับขนนก ใบใหญ่ส่วนบน จะยาวได้ถึง 2 เมตร หากเป็นใบส่วนล่างจะกว้างได้ถึง 15 -30 เซนติเมตรและยาวได้ถึง 30 -60 เซนติเมตรเลยทีเดียว ในส่วนโคนจะถือเป็นจุดที่น่าสนใจเพราะเป็นที่มาของชื่อว่านไก่น้อย คือจะมีขนสีทองยาว ๆ ขึ้นปกคลุมอยู่

การขยายพันธุ์

สำหรับการนำว่านไก่น้อยไปปลูกเพื่อขยายพันธุ์นั้น สามารถทำได้โดยการแยกหน่อ ไม้พันธุ์นี้จะมีความแปลกตรงที่ชอบดินที่เปรี้ยว และชอบอยู่ในบริเวณที่มีความชื้นสูง ชอบแสงแดดอ่อน ๆ ซึ่งว่านไก่น้อยขยายพันธุ์ได้ดีในหลายประเทศของเอเชีย ทั้งประเทศไทย จีนอินเดียและมาเลเซีย

ประโยชน์และคุณค่าของว่านลูกไก่ทอง

ในระยะหลังมาต้นว่านไก่น้อยนี้เริ่มกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง เนื่องจากหลายคนได้นำความเชื่อโบราณเกี่ยวกับไม้พันธุ์นี้มาเล่าต่อ ๆ กัน โดยมีความเชื่อกันว่าลักษณะของต้นว่านชนิดนี้ที่มีขนสีทองที่โคน เป็นสัญลักษณ์แห่งโชคลาภและความเป็นมงคล บวกกับชื่อเรียกที่มีคำว่า “ไก่” อันเป็นสัญลักษณ์ของรุ่งอรุณและความขยันขันแข็ง จึงมีความเชื่อกันว่าบ้านไหนมีต้นว่านชนิดนี้อยู่ก็จะมีแต่โชคลาภ หากนำต้นนี้ไปวางไว้บนโต๊ะทำงานก็จะเสมือนเป็นการปรับฮวงจุ้ยเสริมโชคลาภทำให้การงานและกิจการต่าง ๆ เป็นไปได้ด้วยดี

แต่นอกจากจะมีคุณค่าในแง่ของการเป็นไม้มงคลช่วยเสริมโชคลาภแล้ว ก็ยังมีการศึกษาด้วยว่าว่านชนิดนี้จัดเป็นพืชสมุนไพรอีกชนิดที่มีสรรพคุณทางยาด้วย สำหรับต้นเดี่ยว ๆ ในส่วนของเหง้านั้นมีสรรพคุณเป็นยาระบายและช่วยระบบย่อยในร่างกายทำงานดี เหมาะสำหรับการจะนำมาเป็นยาช่วยย่อยให้กับผู้สูงอายุที่ระบบย่อยอาหารไม่ดี ใช้สำหรับการรักษาแผลสดก็ได้ โดยใช้ส่วนของเหง้านี้นำมาบดให้เป็นผงและใช้โรยลงบนบาดแผลก็จะช่วยห้ามเลือดได้ดี

ไม่เพียงแค่จะนำมาใช้เป็นสมุนไพรเชิงเดี่ยวเท่านั้น ว่านชนิดนี้ยังสามารถนำมาใช้ร่วมกับสมุนไพรอื่น ๆ จัดเป็นตำรับยาได้ด้วย อย่างการใช้ร่วมกับโกฐเชียง, รากหง่วงจี้เน็กและโป่งรากสน นำทุกอย่างในสัดส่วนเท่า ๆ กันมาบดเป็นผง จากนั้นก็ให้ผสมน้ำผึ้งแล้วน้ำมาปั้นเป็นเม็ด ก็จะได้ตำรับยาบำรุงกำลังและบำรุงกระดูกแบบเม็ด ซึ่งเวลารับประทานให้รับประทานครั้งละ 50 เม็ด ถ้าจะเน้นบำรุงเลือดลมให้รับประทานร่วมกับสุราเพียงเล็กน้อยก็จะบำรุงกำลังและเลือดลมได้ดี

จากทั้งหมดที่กล่าวมานี้คงจะเห็นแล้วว่าว่านลูกไก่ทองหรือต้นว่านไก่น้อย มากด้วยประโยชน์และคุณค่าจริง ๆ ไม่เพียงเป็นไม้มงคลที่ดึงดูดโชคลาภและเสริมทรัพย์เท่านั้น แต่ยังมีคุณค่าในการเป็นยาสมุนไพรรักษาโรคและบำรุงร่างกายด้วย ประโยชน์มากมีแบบนี้ต้องหามาไว้ที่บ้านสักต้นกันแล้ว

มาดูเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ว่านลูกไก่ทอง ไม้มงคลที่ดึงดูดโชคลาภและเสริมทรัพย์ ทั้งยังมีคุณค่าในการเป็นยาสมุนไพรรักษาโรคและบำรุงร่างกายด้วย!

Similar Posts

Leave a Reply